ptsd โรคเครียดรุนแรงที่ไม่ควรมองข้าม
ptsd โรคเครียดรุนแรงที่ไม่ควรมองข้าม บอกเลยว่าปัจจุบันนี้มีโรคหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นโรคที่ค่อนข้างที่จะอันตราย แล้วก็ค่อนข้างที่จะมีความรุนแรงเลยทีเดียว นั่นก็คือ โรค ptsd หรือโรคเครียดหลังจากประสบภัยรุนแรงในชีวิต ซึ่งสามารถที่จะเกิดได้กับทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียว
- ซึ่งย่อมาจาก Post traumatic stress disorder ซึ่งเป็นความผิดปกติที่เกิดหลังจากที่ประสบความรุนแรงในชีวิต เป็นความป่วยทางจิตใจที่เผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจของเราอย่างรุนแรง ซึ่งก่อให้เกิดความเครียดจนมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตนั่นเอง
ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วสำหรับผู้ที่เป็นโรคนี้ ก็จะมักจะอยู่ในสถานการณ์หรือเหตุการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ หรือการถูกทำร้ายร่างกาย ถูกทารุณกรรม พบกับเหตุการณ์สะเทือนใจที่แบบไม่คาดคิดคาดฝัน หรือแม้แต่การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากเหตุการณ์นั้น ๆเรียกว่านอกจากนี้เอง ยังรวมถึงกรณีที่ไม่ได้เป็นผู้ประสบเหตุโดยตรง แต่มีการรับรู้ข้อมูลข่าวสารหรือมาจากคำบอกเล่าจากผู้อื่นด้วยเช่นเดียวกัน จนเกิดเป็นความเครียดหรือความวิตกกังวลขึ้นได้
สำหรับอาการนี้เองก็จะพบมีความหวาดกลัว ความสิ้นหวัง รวมไปถึงมีอาการซึมเศร้า รู้สึกท้อแท้เหมือนไม่มีใครให้การช่วยเหลือตัวเองได้ เรียกได้ว่าอาจจะเห็นภาพเหตุการณ์รุนแรงนั้น สะเทือนใจอยู่บ่อย ๆ แม้บางครั้งแล้ว พยายามไม่นึกถึงหรือพยายามลืมก็ตาม
ขณะที่บางคนเองอาจจะมีพฤติกรรมที่แปลกไปจากเดิมเลย อาจจะพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ หรือสถานที่ที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างเช่นกรณีถ้าหากเราเคยประสบอุบัติเหตุเรือล่ม อาจจะไม่กล้าขึ้นเรือโดยสาร หรือไม่กล้าอยู่ในน้ำนั่นเอง
ซึ่งบอกเลยว่าสำหรับผู้ประสบเหตุการณ์ร้ายแรงหรือสะเทือนใจ อาจจะไม่ได้เป็นโรคนี้ทุกคน เพราะบางคนก็สามารถที่จะฟื้นฟูสภาพจิตใจตัวเองกลับมาได้อย่างรวดเร็ว แต่ในขณะที่บางคนมีอาการผิดปกติทางจิตใจระยะสั้นเท่านั้น แต่ถ้าหากใครมีอาการตามที่กล่าวมาข้างต้น 1 เดือน แสดงว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้ได้
โดยปกติแล้วทั่วไปสำหรับการรักษาโรคนี้ ก็มีวิธีการโดยการรักษาด้วยยาและการรักษา ด้วยวิธีทางจิตวิทยาแต่ในบางกรณีเองแพทย์ ก็จะมีการใช้วิธีการรักษา 2 แบบควบคู่กันไป ซึ่งส่วนนี้ก็จะขึ้นอยู่กับลักษณะของอาการผู้ป่วยด้วยเช่นเดียวกัน และก็รวมไปถึงการวินิจฉัยของทางแพทย์
โดยสำหรับระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาส่วนนี้เอง ก็จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงด้วยเช่นเดียวกัน ว่าผู้ป่วยเผชิญมาในรูปแบบใด รวมไปถึงสภาพแวดล้อมของผู้ป่วย และผู้คนรอบข้างมีความเข้าใจในตัวผู้ป่วยหรือไม่ อาจจะใช้เวลารักษาเพียง 6 เดือน แต่บางคนเองก็ถึงขั้นต้อง รับการรักษาไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว