ปลายประสาทอักเสบ สิ่งใกล้ตัวที่เราควรรู้
ปลายประสาทอักเสบ สิ่งใกล้ตัวที่เราควรรู้ มีผู้ใดกันที่เป็นมนุษย์สำนักงานที่จำต้องดำเนินการอยู่ข้างหน้าหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดระยะเวลากันบ้าง
แน่ๆว่าในหนึ่งวันของการทำงานนั้นเกือบจะใช้เวลากับคอมพิวเตอร์และก็ยังจำเป็นต้องนั่งติดโต๊ะด้วยท่าเดิมๆ7– 8 ชั่วโมงกันไปเลย ยิ่งหากคนไหนจำต้องกดเมาส์
หรือใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ตลอดระยะเวลาก็จะมีผลให้เป็นโรคนี้กันได้กล้วยๆ
แล้วก็ถ้าเกิดคุณคิดว่าตนเองปวดตามข้อมือ นิ้วมือ ปลายมือ ปลายตีน หรือรู้สึกชะตามมือตามเท้า ครั้งคราวคุณอาจจะเป็นโรคปลายประสาทอักเสบก็ได้นะ
ว่าแต่ว่าโรคนี้มันเป็นอย่างไร เราเองก็ได้มีการหาคำตอบมาให้แล้ว ไปอ่านกันเลย
โรคปลายประสาทอักเสบ เป็นยังไง?
โรคปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathy) เป็นภาวการณ์ของเส้นประสาทที่ปฏิบัติภารกิจรับส่งคำบัญชาจากสมอง
รวมทั้งไขสันหลังไปยังอวัยวะต่างๆภายในร่างกายกำเนิดความเสื่อมโทรมหรือกำเนิดโรคบางประเภท ทำให้เส้นประสาท
มีลักษณะเจ็บแล้วก็ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนไปจากปกติในเรื่องเกี่ยวกับการสนองตอบต่อสิ่งกระตุ้น
ต้องบอกก่อนว่าภายในร่างกายของมนุษย์นั้นจะมีระบบระเบียบประสาทส่วนปลายที่จะปฏิบัติภารกิจรับคำสั่งจากระบบประสาทศูนย์กลาง
แล้วส่งต่อคำบัญชาไปยังกล้าม ทำให้ร่างกายมีการขยับเขยื้อนและก็รับความรู้สึกได้ ระบบประสาทส่วนปลายจะมีเส้นประสาทที่ปฏิบัติหน้าที่
ราวกับเป็นสายไฟฟ้าสำหรับการนำคำบัญชาไปตามอวัยวะต่างๆซึ่งเส้นประสาทส่วนปลายที่ออกมาจากสมองจะมีทั้งสิ้น 12 คู่ซ้ายรวมทั้งขวา
แต่ละคู่ควบคุมการทำงานในแต่ละส่วนของร่างกายที่ต่างๆนาๆ
อาการพื้นฐานที่มักพบในโรคปลายประสาทอักเสบ
มีลักษณะมือชา เท้าชา หรือรู้สึกชะตามส่วนต่างๆของร่างกาย
มีลักษณะอาการปวดแปร๊บๆบนบริเวณใบหน้าเหมือนถูกกระแสไฟฟ้าช็อต
มีลักษณะอาการร้อนวูบวาบ หรือแสบร้อนใต้ผิวหนัง
มีลักษณะบ้านหมุน เดินเซ รู้สึกสูญเสียการเลี้ยงตัว
มีความดันเลือดต่ำ
มีเหงื่อไหลไคลย้อยมากยิ่งกว่าธรรมดา
บริเวณใบหน้าเมื่อยล้าครึ่งส่วน หรือ มีลักษณะหน้าเบี้ยว
ปลายประสาทอักเสบ สิ่งใกล้ตัวที่เราควรรู้ หลายคนเป็นกันอยู่ไม่รู้ตัว
นอกเหนือจากมนุษย์สถานที่ทำงานที่เป็นโรคนี้กันหลายครั้งแล้ว คนธรรมดาทั่วไปก็สามารถเป็นโรคนี้ได้เช่นเดียวกัน
จำต้องบอกก่อนว่าในความเป็นจริงแล้วที่มาของโรคปลายประสาทอักเสบนั้นกำเนิดได้จากหลายกรณี
แล้วก็บางทีอาจสำเร็จใกล้กันจากโรคหรือเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากความประพฤติต่างๆอย่างเช่น
ผู้ที่ทำงานมากกระทั่งไม่ว่างได้พัก
ผู้ที่ดื่มสุราหรือแอลกอฮอล์บ่อยๆ
คนดูดบุหรี่
ผู้ที่กินอาหารไม่ครบ 5 กลุ่ม
ผู้ที่ถูกใจนั่งไขว่ห้างหรือถูกใจนั่งในท่าที่บางครั้งอาจจะกดทับเส้นประสาท
ผู้ที่ร่างกายขาดวิตามินบางประเภท ตัวอย่างเช่น บี 1 บี 6 รวมทั้ง บี 12
ผู้ที่กินยาบางประเภทที่ส่งผลข้างๆต่อเส้นประสาท
ผู้ที่เป็นโรคโรคเบาหวาน
ผู้ที่เป็นโรคโรคมะเร็งบางจำพวก อาทิเช่น โรคมะเร็งไขกระดูก , โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

พฤติกรรมในการที่เป็นตัวการทำลายผิว
พฤติกรรมในการที่เป็นตัวการทำลายผิว การกระทำรังแกผิว หลายๆคนบางทีก็อาจจะคิดภาพว่า การที่พวกเราไม่บำรุงผิว ไม่ทาครีมอะไรเลย
หรือการไปอาบน้ำเย็นหรือร้อนมากนั้นจะรังแกผิว แต่ว่าที่จริงแล้วมันมีเรื่องมีราวใกล้ตัวกว่านั้นมาก แต่ว่าเกิดเรื่องเล็กๆที่พวกเราชอบละเลยไป
ซึ่งการที่พวกเราจะประพฤติตนอย่างนี้ก็บางทีอาจจะเป็นการรังควานผิวได้อย่างไม่รู้ตัว
ว่าแต่ว่าจะมีอะไรบ้าง วันนี้พวกเราสรุปสั้นๆใจความมาแล้ว ไปดูกันเลย
- ไม่ทาโลชั่นสำหรับกันแสงแดด
แดดเป็นสาเหตุสำคัญที่รังควานผิว การไม่ทาโลชั่นที่เอาไว้สำหรับกันแดดทำให้ผิวโดนรังแก มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นฝ้า กระ
รุนแรงที่สุดถึงขนาดเป็นโรคมะเร็งผิวหนังเลยคะ อย่าลืมทาครีมที่เอาไว้สำหรับป้องกันแสงแดดก่อนออกมาจากบ้านกันด้วยนะทุกคน
- ใช่สินค้าไม่ถูก เนื่องจากไม่รู้ผิวของตนเอง
ผิว แบ่งสำคัญๆได้ 3 ชนิดเป็น ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม การเลือกใช้สินค้าเพื่อบำรุงผิวพรรณที่สมควรจะช่วยป้องกันผิว และก็บำรุงผิวได้มากอย่างยิ่งจริงๆ
- ขัดผิว สครับผิวบ่อยเกินไป
การขัดผิวเป็นที่ชื่นชอบมากมายสำหรับเพศหญิง เพราะว่าช่วยผลัดกำจัดเซลล์ผิวที่ย่อยสลาย ให้เปิดเผยผิวใหม่ที่มองเนียนขึ้นมาแทน
แต่ว่าถ้าขัดหรือสครับผิวบ่อยเกินไปจะก่อให้ผิวบาง ทำให้ได้รับแสงแดดหรือรังสี UV รังแกได้มากขึ้น - บีบสิว แกะสิว แกะแผลเวลาเป็นสิว เป็นแผล อาการคันมือคันไม้พวกเราก็จะเริ่มขึ้น การบีบ แกะ
ทำให้ทิ้งรอยเอาไว้ แล้วหายยากมากมายๆเสนอแนะให้ปลดปล่อยสิวสุกตามธรรมชาติและก็หลุดไปเอง
ส่วนรอยแผลให้ใช้ครีมทา อย่าไปแกะเพราะว่าจะก่อให้เป็นแผลเป็นไปได้
- นอนน้อย นอนน้อยหรือพักน้อยเกินไป ทำให้ร่างกายไม่อาจจะฟื้นฟูได้อย่างมาก แน่ๆมันทำให้ผิวพวกเราที่เป็นแผลหายยากขึ้น
ผิวพวกเราจะแห้ง ดูหมองไม่สดใส มองทรุดโทรมกันเลย

โรคนิ้วล็อกที่เป็นกันหลายคนอาจจะเคยเป็น

โรคนิ้วล็อกที่เป็นกันหลายคนอาจจะเคยเป็น ผู้คนจำนวนมากน่าจะเคยมีลักษณะอาการปวดรอบๆโคนนิ้ว เหยียดหยามนิ้ว–งอนิ้วไม่สบาย
หรือมีความคิดว่าการงอนิ้ว ดูหมิ่นเหยียดหยามนิ้ว มีความรู้สึก “กึ๊กๆ” เหมือนสปริง และก็ที่ร้ายสุดเป็นมีความรู้สึกเจ็บมากมายจนถึงไม่สามารถที่จะงอนิ้วได้
ลักษณะของอาการตามที่กล่าวมา พวกเราเรียกภาวการณ์นี้ว่าคนป่วยเป็น “โรคนิ้วล็อก” (Trigger Finger)
โรคนิ้วล็อก (Trigger Finger) เป็นอย่างไร?
ร้อยตำรวจเอกนพ.วรพล เจริญพร หมอเฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์กระดูกและก็ข้อ–ศัลยกรรมทางมือแล้วก็จุลศัลยกรรม โรงหมอนวเวช
ได้พูดถึงต้นสายปลายเหตุ รวมทั้งแนวทางรักษาโรคนิ้วล็อก สำหรับคนไหนกันแน่ที่สงสัยว่าอาการที่ตนเองเป็นอยู่ใช่นิ้วล็อกหรือไม่
ทดลองดูตนเองจากข้อมูลพวกนี้มอง และก็แพทย์ก็ยังมีแนวทางคุ้มครองปกป้องโรคนิ้วล็อกมาฝากด้วย
ต้นเหตุโรคนิ้วล็อก
โรคนิ้วล็อกเกิดขึ้นมาจากความขยันสำหรับการทำงานบ้าน ทำสวน การเล่นกีฬา หรือเเม้จนกระทั่ง
รูปแบบการทำงานของบุคลากรสถานที่ทำงาน รวมทั้งการเล่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่จะต้องใช้การงอนิ้ว เหยียดนิ้ว เป็นระยะเวลาตลอด
- สัญญาณอันตราย ลักษณะโรคนิ้วล็อก
โรคนิ้วล็อกนั้นเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากปลอกห่อเอ็นที่ใช้ในลักษณะของการขยับนิ้วมีลักษณะอาการอักเสบ โดยลักษณะของนิ้วล็อกมี 4 ระยะ ดังต่อไปนี้ ระยะที่ 1 : เริ่มเเรกคนเจ็บจะมีความรู้สึกเจ็บปวดรอบๆโคนนิ้วนั้นๆ ระยะที่ 2 : มีความรู้สึกว่าการงอนิ้ว เหยียดนิ้ว สะดุดโดยจะมีลักษณะเหมือนสปริงที่จะดีดอย่างเร็วร่วมกับลักษณะของการปวดอย่างยิ่งขณะขยับนิ้ว ระยะที่ 3 : ไม่อาจจะเหยียดนิ้วเองได้ จำเป็นต้องใช้นิ้วอื่นช่วยยืด ระยะที่ 4 : คนป่วยจะมีความรู้สึกเจ็บปวดรุนเเรงจนถึงไม่สามารถที่จะกระทำการงอนิ้วนั้นได้อีกต่อไป
วิธีการป้องกันโรคนิ้วล็อก
เเช่มือในน้ำอุ่น
งอนิ้ว ดูหมิ่นเหยียดหยามนิ้ว ให้สุดเบาๆ
กระทำบริหารนิ้วมือเเบบกล้วยๆทุกๆวัน
พักการใช้แรงงานคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่เมื่อนิ้วมือมีลักษณะอาการเหนื่อย
เลี่ยงการถือของหนักเเละการกำมือเเน่นๆดังเช่น บิดผ้า การตีเทนนิส การเล่นกอล์ฟ ฯลฯ

โรคกลัวหมอฟันที่บอกเลยว่าต้องรู้เอาไว้
โรคกลัวหมอฟันที่บอกเลยว่าต้องรู้เอาไว้ Dentophobia โรคกลัวทันตแพทย์ มีอีกหนึ่งโรคที่น่าดึงดูดมาฝากกัน ใครกันแน่เคยกลัวการไปหาทันตแพทย์ไหม เพียงแค่มีความคิดว่าจะต้องไปพบทันตแพทย์ ก็ไม่สบายใจ กลัวไม่กล้าไปแล้ว วันนี้มาดูกันว่าโรคนี้เป็นยังไง
Dental Phobia เป็นยังไง?
Dental Phobia หมายถึง อาการหรือความหนักใจสำหรับเพื่อการทำฟัน ทำให้เกิดความรู้สึกหนักใจ กลัว ไม่กล้าจะไปทำฟัน เพราะเหตุว่ากลัวทันตแพทย์จะทำร้ายหรือทำอะไรพวกเรา บุคคลที่เป็นโรคนี้มีลักษณะท่าทางที่จะเลี่ยงวิธีการทำทันตกรรมหรือทำฟันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งบางทีอาจจะเป็นสาเหตุที่ก่อปัญหาในโพรงปากได้
โรคกลัวหมอฟันที่บอกเลยว่าต้องรู้เอาไว้ กับต้นตอ
ต้นเหตุของโรค Dental Phobia
หมอฟัน : บางบุคคลมีลักษณะอาการกลัวจากตัวแพทย์เอง เคยมีการประเมินพบว่า ทันตแพทย์ ถูกคิดว่าน่าสยอง เย็นชา
หรือบางบุคคลก็มีประสบการณ์แง่ลบกับทันตแพทย์ผู้ใดผู้หนึ่ง บางทีอาจจะเคยไปทำฟันแล้วรู้สึกเจ็บ ฯลฯ
ประสบการณ์ทำฟันไม่ดีในสมัยก่อน : ตอนอายุยังน้อยคนไม่ใช่น้อยบางครั้งอาจจะเคยถูกถอนฟัน หรือรู้สึกกลัววัสดุของทันตแพทย์
ความป่วยไข้ตอนทำฟัน : ตอนทำฟันคนไม่ใช่น้อยอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีความเจ็บ หรือพบประสบการณ์ที่ไม่ดีดังเช่น ตอนฉีดยาชา ถอนฟัน กรอฟัน ทำให้มีความรู้สึกไม่ดี
ไม่สบายใจตอนทำฟัน : ตอนทำฟันพวกเราชอบถูกปิดตา อ้าปากไว้ แต่ว่ายังเพียงพอมองเห็นแสงสว่างหรือเงาผ่านๆทำให้พวกเรามักจินตนาการถึงสิ่งที่กำลังกำเนิดและจากนั้นก็รู้สึกหนักใจ กลัวไปท้ายที่สุด
นอกนั้นยังมีต้นเหตุอื่นๆอีกดังเช่นว่า อาการชา สำลัก เสียงและก็กลิ่นของกระบวนการทำฟัน อาการกลัวเข็ม
แนวทางรักษาโรค Dental Phobia
ถ้ามีความรู้สึกว่าตนเองกลัวหรือกังวลใจมากมายๆชี้แนะให้หารือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านของสุขภาพจิต
ถ้าเกิดยังอยู่ในระดับที่พอเพียงไหว ชี้แนะให้คุยกับหมอฟันก่อนว่าพวกเรารู้สึกกลัว
เพื่อคุยถึงกับขนาดตอนแนวทางที่ทำให้พวกเราพอใจมากยิ่งขึ้น
บางโรงหมอมีข้าราชการรอดูแลสำหรับผู้ที่กังวลสำหรับการทำทันตกรรม
อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการใช้ยาระงับประสาทหรือยาตัวอื่นช่วยบ้างในบางคราว
โรคกลัวทันตแพทย์ มีหลายระดับ บางบุคคลบางครั้งก็อาจจะตื่นเต้น หรือรู้สึกกังวลใจ
ต้องการชี้แนะให้คุยกับที่ทำฟันก่อน ธรรมดารวมทั้งจะคุยเพื่อหนักใจลดลงได้ แม้เป็นมากก็หารือผู้ชำนาญ
เพราะเหตุว่าอย่างไรพวกเราก็ควรจะตรวจร่างกายโพรงปากอย่างต่ำปีละ 1 ครั้งเพื่อคุ้มครองปัญหาต่างๆที่ตามมาได้

วิธีการลดไขมันในเลือดสูงที่คุณทำได้ด้วยตนเอง
วิธีการลดไขมันในเลือดสูงที่คุณทำได้ด้วยตนเอง ไขมันในเลือดสูง คือ ระดับไขมันในเลือดสูงยิ่งกว่าธรรมดา ซึ่งเป็นภาวการณ์ที่มักพบในชาวไทย แม้เป็นเรื้อรังอาจจะทำให้กำเนิดโรคหัวใจรวมทั้งเส้นเลือดตามมาได้
มักเกิดขึ้นจากความผิดแปลกทางด้านกรรมพันธุ์ การใช้ยาบางจำพวก การกินอาหารที่ไม่ถูกหลักโภชนาการ การกินเหล้าหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในจำนวนมากบ่อยๆ รวมทั้งโรคอะไรบางอย่าง
ดังเช่นว่า เบาหวาน โรคอ้วน ขาดฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ ด้วยเหตุนี้การเลือกทานอาหารเป็นสิ่งที่จำเป็น
ที่จะสามารถช่วยควบคุมหรือลดภาวการณ์ความไม่ปกติดังกล่าวข้างต้น แล้วควรจะเลือกทานอาหารเช่นไรมาติดตามกันเลย
- 5 เทคนิคที่แสนจะง่ายดายลด “ไขมันในเลือดสูง“
งดเว้นของกินที่มีไขมันสูง หรือคอเลสเตอรอลสูง
ดังเช่นว่า หอยนางรม ปลาหมึก กุ้ง เครื่องในสัตว์ เนื้อติดมัน หนังเป็ด หนังไก่
ทำกับข้าวโดยแนวทางต้ม นึ่ง อบ ยำ แทนการทอดหรือการใช้น้ำมันผัด
หากใช้น้ำมันควรที่จะใช้น้ำมันพืช ที่มีไขมันไม่อิ่มตัวสูง
ได้แก่ น้ำมันที่สกัดจากถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากมะกอก
น้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากข้าวโพด น้ำมันที่ทำจากรำข้าว น้ำมันเม็ดดอกคำฝอย
งดเว้นดูดบุหรี่ แล้วก็เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
เสนอแนะให้รับประทาน ไข่ขาว ปลา ถั่วแล้วก็เมล็ดพืชต่างๆ นอกเหนือจากนั้น แม้อยากรับประทานอาหารขบเคี้ยวซึ่งในอาหารกินเล่นนั้นนอกเหนือจากที่จะมีส่วนผสมของน้ำตาล
แล้วยังประกอบไปด้วยไขมัน รวมทั้งโซเดียม ซึ่งแม้บริโภคเยอะเกินไปอาจส่งผลให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูงได้
เพราะฉะนั้นการอ่านฉลากโภชนาการแบบ GDA จะเป็นตัวช่วยเช็กค่าพลังงาน น้ำตาล ไขมัน และก็โซเดียมที่กำลังจะได้รับจากการบริโภค
รวมถึงมีข้อมูลปริมาณร้อยละของจำนวนสูงสุดที่บริโภคได้ต่อวัน แล้วก็ปริมาณครั้งที่ควรจะแบ่งรับประทาน
ทำให้พวกเราสามารถเลือกทานอาหารได้โดยสวัสดิภาพ โดยจำนวนสูงสุดที่ชี้แนะให้บริโภคใน 24 ชั่วโมง เป็น พลังงาน 2,000 กิโลแคลอรี่ต่อวัน
น้ำตาล 65 กรัมต่อวัน
ไขมัน 65 กรัมต่อวัน
โซเดียม 2,000 มก.ต่อวัน

สมุนไพรเคอร่ากับการรักษาโรคโควิด-19
สมุนไพรเคอร่ากับการรักษาโรคโควิด-19 ดังที่มีการชี้แนะถึงหัวข้อเรื่อง สินค้าสมุนไพรเคอร่า (Kerra) รักษาโรคโควิด-19 ทางศูนย์ต้านทานข่าวสารเลียนแบบ
ได้ดำเนินงานพิจารณาข้อสรุปโดยอย. กระทรวงสาธารณสุขพบว่าใจความสำคัญดังกล่าวข้างต้นนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีการแชร์ข้อมูลที่บอกว่าสมุนไพรโอกาสอีกหนึ่งตัว รับประทานแล้วหาย 100% เห็นผลจริง
ทางอย. กระทรวงสาธารณสุข ได้อธิบายว่า จากการพิจารณาข้อมูลและก็รายละเอียดพบว่าสินค้าดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
มีการประชาสัมพันธ์ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ในต้นแบบยาเม็ดที่ได้จากสมุนไพรหลายประเภท
ยกตัวอย่างเช่น ฟ้าทะลายขโมย แก่นจันทน์แดง แก่นจันทน์ขาว หัวคล้า รากฟักข้าว รากมะนาว รากสะเอ็ง รากกระทุงหมาบ้า รากย่านาง บอระเพ็ด
ซึ่งเมื่อพิเคราะห์จากสูตรที่จดทะเบียนตํารับแล้ว พบว่าไม่มีฟ้าทะลายขโมยเป็นองค์ประกอบ และไม่เจอหลักฐานข้อมูล
การศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยถึงประสิทธิผลรวมทั้งความปลอดภัยสำหรับในการใช้เพื่อข้อบ่งใช้เพื่อรักษาโรคโควิด-19 ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
รวมทั้งการค้นฐานข้อมูลสินค้าที่ได้รับอนุญาตจากอย.แล้วเจอสินค้าสมุนไพรดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว
ขึ้นบัญชีเป็นผลิตภัณฑ์ยาแผนไทยเลขทะเบียนยาที่ G 40/57
ข้อบ่งใช้เป็นยาแก้ไข้ โดยเหตุนั้น การนำเอาสินค้าสมุนไพรดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นมาใช้เพื่อรักษาโรควัววิด-19 ก็เลยไม่ใกล้เคียงตามคุณประโยชน์ที่ขึ้นบัญชีไว้
ก็เลยไม่แนะนําให้ใช้สินค้าสมุนไพรดังกล่าวมาแล้วข้างต้น เพื่อรักษาโควิด-19
ด้วยเหตุนั้นขอให้ประชากรอย่าเชื่อข้อมูลดังที่กล่าวถึงแล้ว แล้วก็ขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นต่อในหนทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ
แล้วก็เพื่อประชากรได้รับข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าทางด้านที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ
หรือถ้าเจอสินค้าที่ถูกสงสัย สามารถแจ้งร้องทุกข์ถึงที่กะไว้สายด่วน 1556
แล้วก็สามารถติดตามข้อมูลเหมาะเว็บ www.fda.moph.go.th

โรคกินไม่หยุด กับปัญหาสุขภาพที่ตามมาแบบต้องระวัง
โรคกินไม่หยุด กับปัญหาสุขภาพที่ตามมาแบบต้องระวัง คนไม่ใช่น้อย บางทีแล้ว อาจไม่ค่อยรู้จัก โรครับประทานไม่หยุด ว่ามันเป็นอาการต้องการเฉย ๆ หรือมันเจ็บป่วยจริง ๆ ซึ่งเราเอง จะขอพาทุก ๆ คน มาทำความรู้จักโรคนี้ให้มากเพิ่มขึ้น
โรครับประทานไม่หยุด
โรครับประทานไม่หยุด ภาษาอังกฤษเป็น Binge Eating Disorder (BED) เป็นชื่อโรคที่ใช้เรียกคน ที่มีลักษณะอาการ ทานอาหารในจำนวนมาก ไม่ดีเหมือนปกติ ที่สำคัญเป็น ไม่อาจควบคุมความประพฤติ ปฏิบัติการรับประทานอาหาร ของตัวเองได้ ซึ่งคนที่มีอาการป่วยเป็นโรค นี้จะทานมากยิ่งกว่าธรรมดา คุมตัวเองมิได้ ทานแม้ว่าจะไม่เคยทราบสึกหิว หยุดรับประทานต่อเมื่อรับประทานต่อไม่ไหวแค่นั้น พอเพียงหยุดรับประทานก็จะรู้สึกไม่ถูกกับตนเองว่ารับประทานมากมายไป
ลักษณะของโรครับประทานไม่หยุด
ทานอาหารมากยิ่งกว่าธรรมดา จำนวนมากมายกว่าธรรมดา
ไม่อาจควบคุมความต้องการของตนเองได้ แม้ว่าจะอิ่มรวมทั้งตาม
มักมีความประพฤติไปแอบรับประทานอาหารเพียงผู้เดียว เพราะรู้สึกแย่ รู้สึกอายกับจำนวนของกินที่ตนเองรับประทาน
มีความรู้สึกไม่ถูก เสียใจ โกรธ โทษตนเองเมื่อทานมากจนเกินความจำเป็น
ที่มาของโรครับประทานไม่หยุด
ตอนนี้ยังไร้การศึกษาที่ชี้ต้นเหตุของโรคที่เด่นชัด แต่ว่าก็มีการเดาไว้หลายกรณี ตัวอย่างเช่น
ความผิดปกติเหมือนปกติในสมอง อย่างเช่น ความเคลื่อนไหวของสารเคมีสมองบางสิ่งทำให้คุมตัวเองมิได้
มีการกระทบด้านจิตใจ บางทีอาจจะเคยถูกทำร้ายในอดีตกาล กำเนิดการสิ้นไป ความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจในรูปร่าง
โรคบางประเภท คนเจ็บที่เป็นโรครับประทานไม่หยุด อาจมีผลเกี่ยวโยงมาจากโรคทางจิตเวชได้ ดังเช่น โรคเศร้าใจ ไบโพลาร์ ความตึงเครียด
ปกป้องการเสี่ยงต่อโรครับประทานไม่หยุด
พักให้พอเพียง
บริหารร่างกายบ่อย
ทานอาหารที่เป็นประโยชน์
ทำกิจกรรมเพื่อไม่ให้ตนเองเครียด
มีคนไม่ใช่น้อยสงสัยว่าพวกเรารับประทานมากจะเป็นโรคนี้รึเปล่าถ้าหากพวกเรารับประทานมาก
ตัวอย่างเช่นไปรับประทานบุฟเฟต์ รับประทานเยอะแยะเป็นบางมื้อสามารถกักคุมเองได้ก็ปกติ
แต่ว่าถ้าหากมีลักษณะอาการหรือสงสัยก็เข้ารับการบำบัดขอความเห็นหมอเพื่อรับการดูแลรักษาถัดไป

ฟาวิพิราเวียร์ กับการใช้กับผู้ป่วยโควิด19
ฟาวิพิราเวียร์ กับการใช้กับผู้ป่วยโควิด19 ฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาต้านทานเชื้อไวรัส มีชื่อรหัสเป็น T-705 ปรับปรุงโดยญี่ปุ่น ที่อยู่ในหลักสูตรยารักษาผู้เจ็บป่วยโควิด-19 ของเมืองไทย
โดยทีแรกๆถูกจดทะเบียนเพื่อใช้รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ แต่ว่าเนื่องจากว่ายาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาต้านทานเชื้อไวรัสที่ออกฤทธิ์กว้าง ก็เลยใช้ได้กับโรคติดเชื้อเชื้อไวรัสอื่น ๆ
ตัวอย่างเช่น ชิคุนกุนยา รวมทั้ง โควิด-19 ด้วย
- การใช้ยาฟาวิพิราเวียร์กับคนไข้โควิด-19
หมอใช้ยาฟาวิพิราเวียร์กับคนไข้โควิด-19 ที่รับไว้ภายในสถานพยาบาล โดยใช้กับคนเจ็บที่มีลักษณะของโรค ไม่ชี้แนะให้ใช้กับคนที่ยังไม่มีอาการหรือใช้เพื่อคุ้มครองโรค
โดยจากผลวิจัยชี้ว่าใช้ได้ยอดเยี่ยมกับคนที่เริ่มติดโรคใหม่ๆที่มีความเสื่อมโทรมของปอดไม่มากมาย มีลักษณะไม่มากมาย เพื่อช่วยลดความร้ายแรงและก็การสูญเสีย
- ลักษณะการทำงานของยาฟาวิพิราเวียร์ หากจะชี้แจงแบบเข้าใจง่ายๆเป็น ช่วยยั้งการเพิ่มปริมาณของเชื้อไวรัส ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกาย
สามารถเข้าไปกำจัดเชื้อไวรัสกระทั่งหมด หรือน้อยกระทั่งไม่สามารถที่จะก่อโรคได้อีก
ฟาวิพิราเวียร์ กับการใช้กับผู้ป่วยโควิด19 แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
การใช้ยาฟาวิพิราเวียร์มิได้ใช้กับทุกคน
การใช้ยาขึ้นกับดุลยพินิจของหมอ บางครั้งก็อาจจะใช้กับผู้ติดเชื้อโรคที่ไม่มีการแสดงอาการ ในบางรายถ้ามีลักษณะท่าทาง
ที่จะเจ็บไข้หรือเป็นโรคร้ายแรง อย่างเช่น แก่ โรคเบาหวาน อ้วน ฯลฯ
อีกเหตุผลเป็นถ้าเกิดใช้ยามากเกินความจำเป็น
จะช่วยเหลือการดื้อยาของเชื้อไวรัส ทำให้คุณภาพของยาลดน้อยลง
ปัจจุบันกับการที่ให้รักษาตัวที่บ้าน ทำให้ยาฟาวิพิราเวียร์นั้นเข้าถึงได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
พื้นฐานที่มีการเสวนากันไว้เป็น ถ้าเกิดเริ่มมีลักษณะอาการเชื้อลงปอดก็จะรีบนำส่งยาให้ผู้เจ็บป่วยทาน
เพื่อรักษาอาการแล้วก็ลดการตายให้ได้มากที่สุด
ไทยลุ้นข่าวดีผลิตเองได้
มีการเปิดเผยว่าความก้าวหน้าการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยแล้วก็ความก้าวหน้าผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ในประเทศ
สำหรับต่อต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาลมีความก้าวหน้าเยอะขึ้น
มีความน่าจะเป็นที่จะสร้างความมั่นคงและยั่งยืนทางยาในประเทศไทยเพราะเหตุว่าสามารถสังเคราะห์สารขึ้นต้นที่มีความบริสุทธิ์ผ่านหลักเกณฑ์มาตรฐาน
และก็ยังเป็นการสังเคราะห์จากสารเริ่มที่แพงถูกโดยไม่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างแดน

กักตัวอย่างไรให้ปลอดภัยต่อตนเองและผู้อื่น
กักตัวอย่างไรให้ปลอดภัยต่อตนเองและผู้อื่น หมอโอภาส กล่าวว่า มาตรการที่จะขัดขวางการแพร่ระบาดให้จบอย่างเร็วที่สุด เพื่อลดปริมาณผู้ติดเชื้อโรครายใหม่
ลดการตายและก็ผลพวงอื่นๆเป็น การปกป้องการได้รับเชื้อแล้วก็ควบคุมไม่ให้เชื้อแพร่ไปไปไกลกกว่านี้
จำเป็นจะต้องปฏิบัติงานด้วยกันทุกฝ่ายไปในหนทางเดียวกันอย่างเข้มข้น
กรมควบคุมโรคก็เลยขอความร่วมมือพลเมืองที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดโรคโควิดระหว่างที่ดำรงชีวิตทุกวัน ขอให้กักบริเวณเองที่บ้านตรงเวลา 14 วัน เป็นตอนๆที่เชื้อฟักตัว
เพื่อดูอาการว่าติดโรคไหม สามารถปฏิบัติงานได้ทั้งยังในบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุด
อย่างเช่น ห้องเช่าห้องชุด อพาร์ตเมนต์ต่างๆอีกทั้งชนิดอยู่ตามลำพังคนเดียว
หรืออยู่ร่วมกับครอบครัวหรือพักร่วมกับคนอื่น สร้างความปลอดภัย อีกทั้งตัวเองและก็คนภายในครอบครัว มีข้อเสนอแนะให้ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
แนวทาง “กักบริเวณ” ในบ้านตอนโควิด-19 ให้ไม่เป็นอันตราย ไม่เเพร่เชื้อ
ให้จัดสถานที่พัก รวมทั้งเครื่องมือเครื่องใช้ให้พร้อม ย้ำแยกบ้านพักให้เป็นสัดส่วน เป็นต้นว่าห้องนอน ที่พักผ่อน ถ้าแยกมิได้ บางทีอาจใช้แผ่นกระดาษ
หรือพลาสติกกันห้องเพื่อแบ่งรูปทรงชั่วครั้งชั่วคราว
เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก แยกของใช้ส่วนตัว แยกสุขา แม้แยกมิได้ ให้ใช้เป็นคนในที่สุด
แล้วก็ชำระล้างด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในทันที ชำระล้างทำลายเชื้อเครื่องไม้เครื่องมือข้างในบ้านด้วยน้ำผสมน้ำยาซักผ้า น้ำผสมน้ำยาฟอก หรือแอลกอฮอล์ 70%
กักตัวอย่างไรให้ปลอดภัยต่อตนเองและผู้อื่น ต้องทำตามเคร่งครัด
- เน้นย้ำการดูแลอนามัยเฉพาะบุคคล โดยล้างมือขัดด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล 70 % ทุกหนก่อนรวมทั้งข้างหลังสัมผัสข้าวของที่จะต้องใช้ร่วมกับบุคคลอื่น ใส่หน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลา
ไม่คลุกคลีกับคนอื่นๆ แยกซักเสื้อผ้าเอง และก็ให้งดเว้นการสัมผัสหรือเล่นกับสัตว์เลี้ยงชั่วครั้งคราว - เนื่องมาจากเชื้อไวรัสสามารถติดไปพร้อมกับขนสัตว์ได้ ดังเช่น แยกกินอาหาร แม้ให้คนอื่นหาของกินให้
ทั้งนี้เอง ควรจะระบุจุดรับของกินเพื่อคุ้มครองป้องกันการสัมผัสโดยตรง
กรณีใช้ชักโครก ให้ปิดฝาทุกหนก่อนกดชักโครก เพื่อคุ้มครองปกป้องการแพร่ระบาดเชื้อ ทิ้งขยะในถุงและก็ผูกปากถุงให้แน่นก่อนนำไปทิ้งรวมกับขยะทั่วๆไป - เฝ้าระวังลักษณะการป่วยตัวเองระหว่างกักบริเวณ โดยใช้ปรอทวัดไข้วันแล้ววันเล่า
และก็พิจารณาอาการแตกต่างจากปกติ ถ้าเกิดพบว่าจับไข้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส
รวมทั้งมีลักษณะไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจไม่สะดวก หอบอ่อนแรง ตาแดง จมูกมิได้กลิ่น
หรือลิ้นไม่รับรส มีผื่นขึ้น ปวดศรีษะ เมื่อยกล้าม ท้องเดิน คลื่นไส้
ขอให้แจ้งข้าราชการสาธารณสุขใกล้บ้านหรืออาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) โดยทันที
เพื่อเข้าระบบการดูแลตามลำดับต่อไป แม้มีคำถามสามารถขอรับคำปรึกษาหารือถึงที่เหมาะสายด่วนควบคุมโรค โทร. 1422

น้ำส้มสายชูในการรักษาสุขภาพเท้า

น้ำส้มสายชูในการรักษาสุขภาพเท้า การใส่รองเท้าอีกทั้งหุ้มส้นรวมทั้งรองเท้าแตะสร้างปัญหาต่อร่างกายเท้าอย่างการได้รับเชื้อที่เท้ารวมทั้งเท้าเหม็น ฯลฯ ได้
คนประเทศญี่ปุ่นก็เลยใช้แนวทางการแช่เท้าในน้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชูเพื่อรักษาสุขภาพเท้า มาดูคุณประโยช์จากการแช่เท้าในน้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชู
แล้วก็กรรมวิธีการจัดแจงน้ำสำหรับในการแช่เท้ากันนะคะ
คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากการแช่เท้าในน้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชู
- ช่วยปกป้องผิวหนังอักเสบ
การเดินเท้าไม่ผ่านที่มีน้ำขัง หรือการใส่รองเท้าแตะเสมอๆ ตลอดจนการใส่ถุงเท้าที่ไม่สะอาดทำให้ได้โอกาสติดโรคราที่เท้าได้ง่าย ซึ่งเมื่อติดโรครา
และจากนั้นก็จะมีผลให้ผิวเท้าแห้ง มีลักษณะบวมแดง เป็นตุ่มพุพองและก็คันได้ น้ำส้มสายชูมีฤทธิ์
สำหรับการฆ่าเชื้อโรคราและก็ช่วยทุเลาอาการผิวหนังอักเสบจากการรับเชื้อราเจริญ
ทั้งยังช่วยคุ้มครองปกป้องการรับเชื้อราที่เท้ารวมทั้งเล็บเจริญแม้แช่เท้าในน้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชูบ่อยๆ
- ลดกลิ่นเท้า
กลิ่นไม่ปรารถนาของเท้าเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการสะสมของเหงื่อและก็แบคทีเรีย น้ำส้มสายชูมีฤทธิ์สำหรับการทำลายเชื้อแบคทีเรียเจริญ
การแช่เท้าในน้ำอุ่นผสมน้ำส้มบ่อยๆจะช่วยกำจัดกลิ่นเท้าให้หายไป
ทำให้ไม่ต้องปิดจมูกเมื่อถอดรองเท้าอีก
- ช่วยลดปัญหาเท้าแห้งแตก
เท้าแห้งแล้วก็แตกนอกเหนือจากที่จะสร้างความหงุดหงิดและสร้างความเจ็บได้ถ้าเกิดเท้าแตกอย่างหนัก
กรดในน้ำส้มสายชูจะมีผลให้เท้าเปียกชื้นและก็ทำให้หนังเท้านุ่มขึ้น
คุ้มครองป้องกันเท้าแห้งรวมทั้งแตกได้ดิบได้ดีกรรมวิธีการจัดเตรียมน้ำแช่ - เท้าที่มีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูที่ใช้แช่เท้าจะเป็นน้ำส้มอะไรก็ตามก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำส้มสายยกกลั่นหรือน้ำส้มสายชูหมักจากข้าวหรือเมล็ดพืช แนวทางจัดเตรียมทำเป็นโดยผสมน้ำส้ม 1 ส่วน
และก็น้ำอุ่น 2 ส่วน ในจำนวนที่เพียงพอท่วมฝ่าตีน รวมทั้งกระทำแช่เท้าตรงเวลา 10-20 นาที แล้วหลังจากนั้นก็เลยล้างเท้าด้วยน้ำที่สะอาดและก็ขัดถูให้แห้ง
เพื่อได้ความสามารถก็ควรจะแช่เท้าอย่างสม่ำเสมอ