ปวดคอในลักษณะที่น่าเป็นห่วงต้องไปพบแพทย์
ปวดคอในลักษณะที่น่าเป็นห่วงต้องไปพบแพทย์ สำหรับอาการปวดคอนั้น แน่นอนว่ามันเกิดได้กับทุก ๆ คนนั่นเอง โดยถ้าหากเรานั้น อยู่ในสังคมที่ต้องก้มหน้า ต้องใช้โทรศัพท์มือถือ ต้องดูจอคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ และแน่นอนว่าใครหลาย ๆ คนก็จะก้มหน้าหลาย ๆ ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งบอกเลยว่าสำหรับการก้มหน้านาน ๆ ก็มีโอกาส ที่จะทำให้เราปวดคอ ปวดบ่า ปวดไหล่ แล้วก็บางทีอาจจะปวดร้าวถึงกระบอกตาเลยก็ได้
ซึ่งบอกเลยว่า อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบโครงสร้างทางร่างกายของเรา หลาย ๆ คนเองอาจจะไม่รู้ตัว ว่าเรากำลังเป็นอาการปวดคอไม่หายอยู่ วันนี้เราจะพาทุกท่าน มาทำความเข้าใจในส่วนนี้ ว่าอาการปวดคอที่เกิดขึ้นนั้น มีวิธีแก้ไขได้อย่างไรบ้าง และแบบไหนที่น่าเป็นห่วง และต้องไปพบแพทย์นั่นเอง
ซึ่งสำหรับการปวดคอนั้น มันก็จะมีความรุนแรงมากน้อยแตกต่างกัน ซึ่งตรงนี้เราต้องสังเกตอาการตัวเองด้วยเช่นเดียวกัน ว่ามีความรุนแรงที่มากและน้อยเพียงไหน โดยให้เราดูจากผลกระทบ ในการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ถ้ารู้สึกว่าอาการปวดนั้น รบกวนมากก็ต้องรีบทำการรักษานั่นเอง หรือเราต้องตรวจให้แน่ใจด้วยเช่นเดียวกัน ว่าจะไม่ปวดขั้นรุนแรง ถึงขั้นกดทับเส้นประสาท
เพราะหากเป็นเช่นนั้นแล้ว อาจจะส่งผลให้มีอาการชา อ่อนแรง ยกแขนไม่ขึ้นก็ได้ เราต้องประเมินตัวเอง และเช็คอาการว่า มีอาการเหล่านี้หรือไม่ การนั่งทำงานสักพักนึง ก็รู้สึกปวดเมื่อยต้นคอ หรือว่าปวดเพิ่มมากขึ้นทุกวัน หรือบางทีแล้วจับที่ต้นคอและรู้สึกร้อน ๆ หรือบางครั้งแล้วปวดเหมือนไมเกรน และปวดที่อื่น ๆ ด้วย รวมไปถึงอาจจะมีเสียง เวลาหันคอต่าง ๆ หรืออาจจะมีอาการชา ตั้งแต่แขนไปจนถึงฝ่ามือ หรือบางทีแล้วรับประทานยา หรือนวดก็หาย แต่ว่าก็กลับมาปวดอีก
รวมไปถึงช่วงเช้าเอง เหมือนรู้สึกเหมือนนอนตกหมอนบ่อย ๆ หรือมีอาการง่วงเพลียตลอดทั้งวันไม่สดชื่นและหงุดหงิด ถ้าหากว่าคุณมีอาการนี้เกินครึ่งขึ้นไป ต้องตรวจเดี๋ยวนี้ เพราะว่าอาจจะเรื้อรัง ถึงขั้นอัมพาตได้นั่นเอง โดยเรานั้น ควรที่จะมีวิธีบริหารร่างกาย ด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อเราต้องก้มหน้าเป็นเวลานาน ๆ
- ให้เรานั้นทำการนั่งหลังตรง แล้วก็ลงน้ำหนักให้เท่า ๆ กัน มือประสานด้านหลังระดับก้น และดึงสะบักไปด้านหลัง ยืดอกหน้าเงยเล็กน้อย พร้อมกับหายใจเข้าลึกลึกก็จะช่วยได้ รวมไปถึงการนั่งหลังตรง และมือประสานกัน เหยียดแขนขึ้นเหนือศีรษะ ยืดอกหายใจเข้าลึก ๆ รวมไปถึงการหายใจออก และกระดูกข้อมือ
- หรือวิธีการเหยียดแขนตึง ๆ และวาดแขนไปด้านหลังและหายใจออก และเราก็ควรที่จะแขม่วท้องเล็กน้อยด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันไม่ให้การเอนหลังมากจนเกินไป อาจจะทำให้เจ็บหลัง ได้ซึ่งบอกเลยว่าถ้าหากคุณมีอาการมากยิ่งขึ้น หรือมันไม่ลดลงเลย ก็ให้ทำการพบแพทย์และปรึกษาแพทย์โดยด่วน เพื่อที่จะได้รักษาอย่างทันท่วงทีนั่นเอง