การกินทุเรียนมากเสี่ยงเป็นร้อนใน - ที่พึ่งพายามท้อ ทุเรียน

การกินทุเรียนมากเสี่ยงเป็นร้อนใน

บทความทั้งหมด / 30 พฤษภาคม 2021 / 810

การกินทุเรียนมากเสี่ยงเป็นร้อนใน

การกินทุเรียนมากเสี่ยงเป็นร้อนใน

การกินทุเรียนมากเสี่ยงเป็นร้อนใน ต้องบอกเลยว่าสำหรับใครหลาย ๆ คนนั้น ที่รับประทานทุเรียนกัน ก็น่าจะทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าทุเรียนนั้นถือเป็นผลไม้ที่อร่อยอีกอย่างนึงเลย เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ที่ขายดีตลอดกาลเลยทีเดียว 

ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่า มันให้คุณค่าทางอาหาร และพลังงานที่สูงมากแล้ว ทั้งนี้เองหลาย ๆ คนก็คงเคยได้ยินมาว่า การกินทุเรียนนั้นมันทำให้เป็นร้อนในได้ด้วยเช่นเดียวกัน 

โดยสำหรับทุเรียนเองใครหลาย ๆ คนก็อาจสงสัยว่า แล้วทำไมมันถึงเป็นร้อนในกันได้แบบง่าย ๆ ขนาดนั้น เราก็จะมาอธิบายให้ฟังว่าเพราะอะไรกันแน่ บอกเลยว่านี่ก็ถือเป็นข้อมูลเกี่ยวกับทุเรียน ที่คุณนั้นควรดูเอาไว้ด้วย 

สำหรับทุเรียนที่มันเป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าทุเรียนนั้นมีฤทธิ์ร้อน เมื่อเรารับประทานมากจนเกินไปจะทำให้เกิดอาการร้อนใน รวมไปถึงเป็นไข้และตัวร้อนได้ จากสิ่งนี้เองก็ได้มีคำแนะนำจากกรมการแพทย์แผนไทย และแพทย์แผนทางเลือกด้วยเช่นเดียวกัน ว่าเราควรที่จะดื่มน้ำสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น เพื่อที่จะลดความร้อนและปรับสมดุลในร่างกายของเรานั่นเอง

เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเป็นน้ำมะพร้าว น้ำแตงโม น้ำใบเตย หรืออาจจะทำการรับประทานผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็นอย่างมังคุดก็ได้เช่นเดียวกัน โดยรับประทานคู่กัน จะช่วยให้เกิดความสมดุลมากยิ่งขึ้น และช่วยลดร้อนในร่างกายได้ 

ทั้งนี้เองก็บอกเลยว่า การที่เรานั้นกินทุเรียน กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มันก็เป็นสิ่งที่ต้องห้ามมาก ๆ เลยทีเดียว เพราะมันจะเป็นกระบวนการในการทำลายแอลกอฮอล์ไม่สมบูรณ์ แล้วก็ได้รับพลังงานสูง และเสี่ยงไปถึงน้ำตาลในเลือดอาจจะสูงขึ้นแบบรวดเร็วเลยทีเดียว 

ดังนั้นแล้ว หากเราต้องการกินทุเรียนให้ได้ประโยชน์จริง ๆ และได้คุณค่าทางสารอาหาร ที่เหมาะสมเราก็ควรที่จะไม่กินทุเรียนเกินวันละ 2 เม็ด โดยไม่ควรที่จะกินในทุก ๆ วัน และลดอาหารกลุ่มข้าวแป้งของหวานลง

  • เรียกว่าในส่วนนี้เองเพราะทุเรียนนั้นมีแคลอรี่สูง ซึ่งเทียบเท่ากับการกินเท่ากับการกินอาหาร 2 มื้อเลยทีเดียว แล้วสำหรับคนที่มีโรคประจำตัว ไม่ว่าจะเป็นโรคไต โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ทั้งนี้ก็ควรที่จะระมัดระวัง เรื่องการกินทุเรียนมากกว่าคนปกติทั่วไปด้วยเช่นเดียวกัน

อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่